หุ่นสวยด้วย Magic Pen ปากกาลดน้ำหนักสำหรับฉีด เป็นโปรตีนสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนในร่างกายของเรา ช่วยในการควบคุมความอยากอาหารของเรา ทำให้ความอยากอาหารลดน้อยลง จึงช่วยให้น้ำหนัดลดลงได้ เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก อยากคุมอาหาร ซึ่งตัวยานั้นมีความปลอดภัย สามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์
สารบัญ
M A G I C P E N ปากกาลด หุ่นดีได้ ไม่ต้องอด
Magic Pen คืออะไร
Magic Pen คือ ปากกาลดน้ำหนัก เป็นตัวยาลดน้ำหนักที่อยู่ในรูปของปากกาสำหรับฉีดยา มีการออกฤทธิ์ที่คล้ายกับฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายชื่อว่า GLP-1 หลั่งออกมาจากสำไส้หลังการรับประทานอาหาร จะออกฤทธิ์จับกับตัวรับในสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกอิ่ม จึงทำให้หิวน้อยลง จะช่วยให้กินน้อยลง และทำให้น้ำหนักลดลงได้
Magic Pen ปลอดภัยหรือไม่
ตัวยา Magic Pen ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาว่ามีความปลอดภัย สามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์
Magic Pen เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30 คือมีภาวะอ้วน
- หรือคนที่มีดัชนีมวลกาย BMI 27-29 คือมีภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีปัญหาสุขภาพด้านน้ำหนัก (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ มีปัญหาการหายใจระหว่างนอน ‘ภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับเนื่อจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ’)
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ผู้ที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกิน
Magic Pen ไม่เหมาะกับใครบ้าง
- มีประวัติแพ้
- โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์
- โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ
- อายุต่ำกว่า18ปี และอายุมากกว่า 75 ปี
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต ตับ ลำไส้และกระเพาะอาหารควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ตั้งครรภ์ วางแผนตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีการใช้ยาเบาหวาน หรือยาที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
Magic Pen กับ COVID-19
วิธีใช้ Magic Pen
- ในการใช้ปากกาฉีดครั้งแรก แพทย์และพยาบาลจะสาธิตวิธีการใช้ปากกาฉีดยาให้ดู และทดสอบการใช้ปากกา ทดสอบการไหลของปากกา ทดสอบการหมุนปรับยาของปากกา
- สามารถฉีดยาเวลาใดก็ได้ของวัน แนะนำฉีดตอนเช้า เวลาใกล้เคียงเดิมทุกๆวัน เลือกเวลาที่สะดวกในการฉีดยามากที่สุด
- เป็นการฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง ตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีดยา คือ บริเวณหน้าท้อง
ขั้นตอนการฉีดยาด้วยตนเอง
- เตรียมปากกา และเข็มฉีดยาอันใหม่
- ตรวจสอบชื่อและสีฉลากบนปากกา
- ดึงปลอกปากกาออก
- ตรวจสอบตัวยาที่บรรจุในปากกา ต้องใส ไม่มีสี ไม่ขุน โดยดูที่ช่องมองปริมาณยาบนด้ามปากกา
- นำเข็มฉีดยาใหม่ขึ้นมา และดึงแผ่นกระดาษปิดโคนเข็มออก
- สวมเข็มเข้าปากกาตรงๆ แล้วหมุนให้แน่น
- ดึงปลอกเข็มชั้นนอกออก
- ดึงปลอกเข็มชั้นในออก แล้วทิ้งไป
- ปรับขนาดยา หมุนวงแหวนตั้งขนาดยาจนได้ตัวเลขขนาดยาที่ต้องการ ถ้าตั้งผิดสามารถหมุนปรับไปด้านหน้าหรือถอยหลังได้จนได้ขนาดยาที่ถูกต้อง ดูขนาดยาเสมอก่อนฉีดยา
- ก่อนใช้ปากกาใหม่ทุกครั้ง ให้ทดสอบการไหลของปากกา ให้หมุนปากกาไปขีดจุดสองจุด สำหรับทดสอบการไหลของยา และกดปุ่มฉีดยาค้างไว้ จนตัวเลขกลับมาเลข 0 จะเห็นหยดสารละลายที่ปลายเข็ม ถ้าไม่เห็นหยดสารละลายให้ทดสอบซ้ำอีกครั้ง จนครบ 6 ครั้ง ถ้าไม่มีหยดสารละลายให้เปลี่ยนเข็ม และทดสอบอีกครั้ง หากยังไม่มีสารละลายหยดออกมาอีก ให้เปลี่ยนปากกาด้ามใหม่ และติดต่อคลินิกเพื่อส่งคืนปากกา
- ก่อนฉีดยา เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยแอลกอฮอล์
- แทงเข็มฉีดยาลงบนผิวที่ต้องการ เช่น บริเวณหน้าท้อง ลักษณะแทงเข็มฉีดยาเข้าหาตัว โดยให้ปากกาด้านที่โชว์ขนาดยาที่ในลักษณะที่มองเห็นชัดขณะฉีด
- กดปุ่มฉีดยาค้างไว้จนกระทั่งตัวเลขแสดงขนาดยาเป็นเลข0 และรู้สึกได้ถึงเสียงคลิก
- คาเข็มไว้ใต้ผิวหนังหลังจากตัวเลขกลับมาที่0 ให้นับช้าๆ1-6 จึงค่อยถอนเข็มออกตรงๆ ถ้าถอนเข็มออกก่อนอาจเห็นตัวยาออกมาจากปลายเข็ม ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่าได้รับยาไม่ครบขนาด
- หลังจากถอนเข็ม ถ้ามีเลือดออกให้กดปิดเบาๆ ไม่ถูบริเวณนั้น
- สวมปลอกเข็มเข้าปากกา ห้ามจับปลอกเข็มอาจเสี่ยงอันตรายเข็มทิ่มตำมือได้
- หลังจากปิดปลอกเข็ม คลายเกลียวเพื่อถอดเข็มอย่างระมัดระวัง
ขนาดยาที่แนะนำในการฉีด
• เริ่มใช้ยาครั้งแรก เริ่มต้นที่ 0.6 มิลลิกรัม ทุกวัน วันละครั้ง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หากไม่มีอาการข้างเคียง ขนาดยาจะปรับเพิ่มครั้งละ 0.6 มิลลิกรัม ในแต่ละสัปดาห์ จนกว่าจะถึงขนาดยาแนะนำ คือ 3.0 มิลลิกรัม วันละครั้ง
• โดยแพทย์จะแจ้งให้ทราบถึงขนาดยาที่ต้องฉีด ในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์ ดังตารางต่อไปนี้
สัปดาห์ที่ 1 = 0.6 มิลลิกรัม วันละครั้ง
สัปดาห์ที่ 2 = 1.2 มิลลิกรัม วันละครั้ง
สัปดาห์ที่ 3 = 1.8 มิลลิกรัม วันละครั้ง
สัปดาห์ที่ 4 = 2.4 มิลลิกรัม วันละครั้ง
สัปดาห์ที่ 5 เป็นต้นไป = 3.0 มิลลิกรัม วันละครั้ง
• เมื่อได้รับยาขนาด 3.0 มิลลิกรัม จะฉีดขนาดยานี้ไปเรื่อยๆจนกว่าสิ้นสุดการรักษา ห้ามเพิ่มขนาดยาต่อไปอีก
อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้
- อาจคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือ ท้องผูกได้ในช่วงแรกๆหลังฉีดยา แต่อาการจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น
การเก็บรักษายา
- แนะนำเก็บให้พ้นมือเด็ก เก็บไว้ในตู้เย็น อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็ง