ไขข้อสงสัยก่อนโปรแกรมฟิลเลอร์ปาก (mouth fillers)
อยากมีปากสวยได้รูปอิ่มน้ำ ปากสวยเหมือนสาวเกาหลีทำยังไงดี หรืออยากจะได้ปากสวยแบบสาวสายฝอ ฟิลเลอร์ปากสามารถเสกสรรค์ปั้นแต่งให้คุณมีรูปปากสวยดูดีได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสายฝอหรือสายเกา ซึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์ปากนั้นก็มีฟิลเลอร์หลากหลายตัวให้เลือกฉีดได้เช่นกัน ซึ่ง The Clover Clinic ก็ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์แต่ละแบบมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้คนไข้สามารถเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความชอบของแต่ละคนค่ะ และรวบรวมข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวโปรแกรมฟิลเลอร์ปาก ปากที่สวยคือแบบไหน ถ้าหากปากบางเพราะอายุที่มากขึ้นฉีดได้ไหม ข้อควรระวังต่างๆ ในโปรแกรมฟิลเลอร์ปาก ที่นี่มีคำตอบค่ะ
รีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์ปากสายฝอ สายเกา
ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
โปรแกรมฟิลเลอร์แบบที่เหมาะกับการฉีดปาก
- สามารถรวมเข้าเป็นเนื้อเดียว กับเนื้อปากได้ดี ไม่เป็นก้อน
- สามารถตั้งทรงได้สวยทำขอบได้คม ทำกระจับได้ทรงไม่เบอะ หรือแบะออกเมื่อเวลาผ่านไป
- สามารถเพิ่มปริมาณเนื้อปาก ได้ดี และหลังเติมไม่ยุบหายไปเร็วจนเกินไปนัก
- สามารถอยู่ได้นาน จะได้ไม่ต้องฉีดบ่อยๆ
ฟิลเลอร์ปาก กี่วันเห็นผล กี่วันสวย
ข้อดีมาก ๆ ของการ โปรแกรมฟิลเลอร์ อย่างนึงเลยก็คือ ฉีดปุ๊บเห็นผลเลยทันที ไม่ต้องฉีดเผื่อยุบเหมือนฉีดไขมันค่ะ ปกติหลังทำทันทีจะเห็นเลยทันทีว่าเป็นอย่างไร แต่เนื่องจาก ปาก เป็นบริเวณที่บวมและช้ำได้ง่าย หลังจากฉีดประมาณ 6-12 ชม จะเริ่มมีอาการบวม หรือ ที่เราเรียกกันว่า ปากเบิร์นค่ะ ซึ่งอาการบวมหลังทำจะเกิดได้หลังฉีดประมาณ 24-48 ชม ซึ่งบวมมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และเทคนิคการฉีดของแพทย์ อีกส่วนนึงค่ะ และจะค่อยๆหายไป ลดลงไป ถ้าไม่เขียวหรือช้ำมาก
โดยทั่วไป ประมาณ 72 ชม. ก็จะสามารถ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่บวมไม่เบิร์นมากจนเกินไปค่ะ แต่หลายๆ คนจะชอบตอนเบิร์นหรือตอนบวมมากสุด เพราะจะดูปากเต็ม มีเนื้อปากสวยๆ ก็แล้วแต่แต่ละคนค่ะ และสามารถมาเติมเพิ่มได้หลังจากฉีดครั้งแรก ประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ
อีกเรื่องคือ ชนิดของฟิลเลอร์มีความสำคัญมากค่ะ เพราะฟิลเลอร์บางตัว ตอนฉีดจะทรงสวยขอบคมขึ้นรูปได้ดี แต่หลังฉีดจะไม่ค่อยอยู่ทรงขอบไม่ค่อยชัด ทำได้แต่วอลลุ่ม แต่ทรงไม่ค่อยชัดมากค่ะ
(เลื่อนบนดู ฟิลเลอร์ ที่ the clover clinic เลือกใช้)
ฟิลเลอร์ปาก อันตรายมั้ย
ไม่ว่าจะเป็นการโปรแกรมฟิลเลอร์บริเวณไหน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด ก็คือความปลอดภัยใช่มั้ยคะ ดังนั้นแพทย์จึงต้องมีความรู้เรื่องของเส้นเลือดบริเวณปาก
จะเห็นได้ว่าบริเวณปากเป็นบริเวณที่มีเลือดไปเลี้ยงอยู่เยอะมาก ดังนั้นแพทย์จึงต้องมีความรู้ว่าจะฉีดบริเวณไหน และชั้นความลึกมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ไม่มีอันตรายในเรื่องของการอุดตันเส้นเลือดค่ะ ซึ่งแพทย์ของทางคลินิกได้รับการอบรมเรื่องกายวิภาค เส้นเลือดของคนไข้ เป็นอย่างดีจึงมั่นใจได้ว่าสวยได้อย่างปลอดภัยค่ะ
ข้อควรระวังในการใช้โปรแกรมฟิลเลอร์
ที่สำคัญเลยคือ ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น หมอมีวิธี ตรวจฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งของทางคลินิก ใช้ของแท้ 100% เช็คได้ แสกนได้ เอากล่อง เอาหลอด กลับได้ มั่นใจได้ค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากใช้ยี่ห้อไหนดี
สำหรับโปรแกรมฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับการฉีดปากตาม ข้างต้น ที่ได้กล่าวไว้ที่ The Clover Clinic ใช้ทั้งหมด 4 ยี่ห้อค่ะ
เรสไทเรน จูวีเดิร์ม และอีวัว ค่ะ สำหรับ นิวรามิส กล่องดำ ก็จะมีหลายที่ใช้กันนะคะ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่า ขึ้นรูปไม่ค่อยชัดมาก และ หายค่อนข้างเร็วค่ะ เลยชอบใช้ เรสไทเรน จูวีเดิร์ม และ อีวัว มากกว่าค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
อันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ เลยค่ะ
- โดยตัวที่อยู่ได้ประมาณ 1 ปี แบบมีผลการวิจัย รับรองคือ Restylane KYSSE ค่ะ
- Volift จากประสบการณ์ที่ฉีด พบว่าอยู่ได้นานเช่นกันประมาณ 1 ปีได้ค่ะ
ส่วนตัวอื่นๆ ค่อยๆน้อยลงไปโดยทั่วไป ประมาณ 6 เดือน ค่ะ เพราะเนื่องจาก ปาก เป็นบริเวณที่ต้องขยับบ่อยๆ และโดนความร้อนแทบทุกวัน เลยทำให้ฟิลเลอร์หายไปเร็วกว่าบริเวณอื่นค่ะ
ปากสายเกา ปากสายฝอ ปากที่สวยต้องเป็นอย่างไร
หลายๆคน พอเห็นรูป ใน IG หรือทางสื่อต่างๆ เห็นปากทรงที่ชอบ ก็มักจะเอา Ref. มาเพื่อให้หมอฉีดฟิลเลอร์ปากค่ะ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบไหน จะปากสายฝอ หรือสายเกา มีสิ่งที่เหมือนๆกันอยู่ สิ่งที่เหมือนกัน คือ Beauty Ratio ของปากที่สวยนั่นเองค่ะ
- จากรูป ปกติเวลาเราลากเส้น จาก subnasion คือ บริเวณ หมายเลข 1 ตามรูป มาที่จุดที่ยื่นสุดของคาง ปากบนจะยื่นออกมา ประมาณ 3.5 มม ส่วนปากล่าง จะยื่นออกมา ประมาณ 2.2 มม ดังรูปค่ะ
- อัตราส่วนของปากบนต่อปากล่าง จะเป็น 1:1.615
แต่ก็แล้วแต่ความชอบและเชื้อชาตินะคะ เพราะบางทีหลายๆคน ชอบปากสายฝอ ปากเต็มๆ ก็จะชอบ อัตราส่วน 1:1 ค่ะ
ส่วนระยะจากใต้จมูก จนถึงปากบน และ จากปากล่าง ถึงคางมักจะ ประมาณ 1 ส่วน ต่อ 2 ส่วนค่ะดังรูป
ลักษณะของปากที่สวย
- Volume full and Plumb Lip เนื้อปากต้องเต็ม ฉ่ำ
- Deep and Defined Cupid Bow cupid bow คือตรงตัว M ของปากบน ต้องมี และขอบคมชัดเจนเห็นชัด
- Smooth surroundings รอบๆ ปากก็จะต้องดีด้วย อันนี้ หมออยากวาดดาวล้านดวง นะคะ สำคัญมากค่ะ เพราะ ถ้าเรา เริ่ม มี Sign ของความ Aging ต่อให้ปากเราสวยแค่ไหน แต่เริ่มมี Lip Lines เป็น รอยย่นๆ รอบๆบริเวณปาก มีร่องน้ำหมาก มีร่องแก้ม มีความหย่อนคล้อย มันจะทำให้โดยรวมคือไม่สวยอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น เราจะต้องดูโครงสร้างของบ้าน แก้ไขเสาเข็มทรุด อุดรูรั่ว ก่อนตกแต่งทาสีใส่เฟอนิเจอร์ใช่มั้ยคะ ก็เหมือนกันกับการแก้ไขโครงสร้างของใบหน้า เราควรแก้ไขโครงสร้าง ลดความหย่อนคล้อย ลดภาวะ Aging ก่อนการฉีดปากเพียงอย่างเดียวค่ะ
- Defined Vermilion Boarders ขอบปากต้องคมและชัด
- Perfect Proportions อัตราส่วนของทั้งปากบน ต่อปากล่าง (1:1.6 หรือ 1:1 แล้วแต่เชื้อชาติ) และอัตราส่วนของปาก ต่อ ใบหน้าส่วนล่าง (1:3) รวมไปถึงความสมมาตรกันของเนื้อปากทั้งซ้ายและขวา ทั้งเวลา หน้านิ่ง และหน้ายิ้ม ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งสิ้นค่ะ
- Smiley Lips นอกจากเนื้อปากแล้ว มุมปากก็ควรยกขี้นไม่ตกลงด้วยค่ะ
- Rich Ridges คือมี Philtrum ที่เป็นขอบชัดเจน (ฟิลทรัม คือ ขอบที่เชื่อมระหว่าง ริมฝีปากบน และ จมูกค่ะ)
ปากสายฝอ
- อัตราส่วนปากบนต่อปากล่างประมาณ 1:1
- ปากล่างจะดูเต็ม ไม่มีร่องตรงกลาง
- ปากจะเต็มสวยโดดเด่นและดูเซ็กซี่
- แบบ Hybrid บางคนชอบปากเต็ม ไม่มีกระจับเยอะๆแบบ สายฝอ แต่อยากได้ปากล่างแบบ สายเกา หรือปรับเปลี่ยนตามรูปหน้ารูปปากเดิม หรือความชอบในแต่ละคนได้ค่ะ
รีวิวฟิลเลอร์ปากสายฝอ
ปากแก่ ปากมีอายุ ปากบาง ร่องปากลึก เกิดจากอะไร
ปกติเวลาเราเกิดภาวะที่เรียกว่า Aging เราไม่ได้แก่แต่อายุนะคะ เราแก่ยันกระดูกค่ะ คือกระดูกจะเริ่มกร่อนลง ชั้นไขมันก็ลดลง ผิวก็สูญเสียคอลลาเจนมากขึ้น รวมไปถึงในเรื่องของฟันและกราม ล้วนแล้วมีผลต่อรูปปากที่เปลี่ยนแปลงไปค่ะ
ลักษณะปากก็จะเริ่มบาง ตกร่อง ระยะจากปลายจมูก จนถึงปากบน ก็จะเริ่มเพิ่มมากขึ้น มุมปากตก เริ่มมีร่องน้ำหมาก ร่องข้างมุมปากที่ชัดเจนขึ้น เริ่มมีริ้วรอย รอบๆปาก ขอบปากรวมไปถึง Philtrum คือร่องจากจมูกลงมาปากก็จะไม่ชัด ระยะจากปลายจมูกมา ดังนั้นเราดูแลหน้า อย่าลืมดูแลปากด้วยค่ะ เพราะปาก คืออวัยวะที่บ่งบอกอายุได้เป็นอย่างดี อย่าปล่อยให้หน้าเด็ก แต่ปากบางปากแก่ทาลิปตกร่องนะคะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากแล้วบวมมากช้ำมาก ฉีดปากบวมช้ำแบบไหนต้องระวัง
- อาการบวมหรือช้ำ หลังจากฉีดริมฝีปาก สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ แต่ถ้ามีอาการต่อไปนี้อาจจะไม่ใช่อาการช้ำ แบบปกติค่ะ มีอาการช้ำ ลักษณะแบบดังรูป และรอบๆบริเวณ มีความช้ำๆปนเป็นเส้นๆม่วง ๆ เป็นร่างแห รอบๆปากเป็นแบบนี้ค่ะ
- เจ็บกว่าปกติหลังฉีดโดยทั่วไป มักจะมีอาการช้ำหรือระบม เป็น ปกติ แต่ถ้าหากรู้สึก เจ็บมาก เป็นตลอด บวกกับช้ำ และสีเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ค่อนดำมากขึ้น ต้องรีบพบแพทย์ค่ะ
- ช้ำแล้วเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ค่อนไปดำ อันนี้คืออาการค่อนข้างจะสายไปนิดแล้วนะคะ เพราะเริ่มดำ ก็แปลว่า เริ่มเกิด Skin Necrosis คือเนื้อตาย จากการอุดตัน เส้นเลือดแล้วค่ะ
- ช้ำ และขึ้นเหมือนตุ่มน้ำ ใสๆ เล็ก ๆ บริเวณที่ฉีด หรือผิวตามแนวเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง
สรุปแล้ว ควรเริ่มต้น จากการเลือก คลินิก และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในเรื่องของกายวิภาค เส้นเลือด และ มีความชำนาญในการฉีด เพื่อให้สามารถฉีดในชั้นที่ถูกต้อง และไม่เกิด ผลข้างเคียงที่อันตรายค่ะ
ตัดปากริมฝีปากกระจับมาแล้วบาง สามารถฉีดปากได้หรือไม่
สามารถฉีดได้ค่ะ แต่เนื่องจากการตัดปากจะทำให้กายวิภาคของเส้นเลือดเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังในการฉีดเพราะเส้นเลือดมีความเปลี่ยนแปลงจากการตัดริมฝีปากแล้ว และ อีกเรื่องคือ อาจจะเกิดผังผืด ทำให้ฟิลเลอร์อาจจะไม่ไปบริเวณตามที่เราต้องการได้ จึงจะต้องมีเทคนิคในการฉีดเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากแล้วปากลอก ปากแห้ง จริงหรือไม่ เกิดจากอะไร
การฉีดฟิลเลอร์ จริงๆ นอกจาก จะช่วยทำให้ริมฝีปาก อิ่มสวยขึ้นแล้ว ยังทำให้อุ้มน้ำ ลดร่องปากและทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้นด้วยนะคะ
แต่คนไข้บางคน อาจจะมีคำถามเรื่องของหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเหมือนปากมันแห้งลง อาจจะเกิดจากการทายาชาบริเวณริมฝีปาก ได้ค่ะ เพราะการทายาชา ไม่ว่าบริเวณใด จะทำให้ผิวแห้งลงอยู่แล้ว ดังนั้นหลังฉีด ประมาณ 24 ชม ก็สามารถทาลิปปาล์มหรือวาสลีน ป้องกันการแห้งลอกได้ค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากช่วยเรื่องปากคล้ำได้หรือไม่
จริงอยู่ที่ฟิลเลอร์ ไม่ได้ช่วยทำให้เม็ดสีลดลงนะคะ แต่ฟิลเลอร์ ทำให้ ผิวมีความเต่งตึงมากขึ้น และการฉีดที่ถูกชั้นผิวและเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง นอกจากจะจะทำให้ปากดูเต็มขึ้น ยังช่วยเรื่องของสีปาก ดูคล้ำลดลงด้วยค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากใช้กี่ cc
โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ปาก บริเวณเนื้อปากจะใช้ประมาณ 1 cc – 2 cc ค่ะ แต่โดยทั่วไปมักจะเริ่มฉีดที่ 1 cc และให้มาเติมเพิ่ม เพราะจะได้ไม่เกิดการบวมหลังทำมากจนเกินไป และถ้าคนไข้มีปัญหาบริเวณ รอบๆปากด้วยก็จะใช้ฟิลเลอร์ ปริมาณมากขึ้น เช่นถ้าต้องการจะยกมุมปาก ด้วยหรือแก้ร่องใต้ปาก ก็จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์เพิ่มขึ้นค่ะ
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี วิธีการเลือกบริการ
1. เลือกคลินิกที่แพทย์มีความชำนาญ
แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มีประสบการณ์ฉีดที่สูง
2. เลือกคลินิกที่มีรีวิวคนไข้จริง
เลือกคลินิกที่มีรีวิวก่อนและหลังทำ ทั้งดารา เซเลบ เน็ตไอดอล และคนไข้จริง เพราะการที่มีรีวิว ของดารา อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีชื่อเสียงจะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาราที่มีชื่อเสียง จำเป็นต้องใช้หน้าในการทำงาน ยอมรับและให้การไว้วางใจ ในการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นการการันตี และช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
โดยควรจะมีทั้งแบบวิดีโอหรือแบบรูปถ่ายได้ แต่นอกเหนือจากนี้ก็ควรจะมีรีวิวทั้งแบบภาพและวิดีโอ เพื่อให้คนไข้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะถ้ามีแต่ภาพอย่างเดียว อาจจะเกิดจากการแต่งภาพได้ ควรจะมีรีวิวแบบที่เป็นวิดีโอประกอบด้วยเช่นกัน
รีวิวจากคนไข้จริง การที่มีรีวิวคนไข้ที่ฉีดจริง จะช่วยให้ ตัดสินใจได้ดีขึ้นเพราะ จะมีเคสที่หลากหลายและแตกต่างกัน และเป็นตัวอย่างตามความต้องการของเรา
3. เลือกคลินิกที่มีแพทย์เป็นผู้ให้คำปรึกษา
หลายคลินิก อาจจะให้เจอแต่เซลล์ไม่ได้เจอแพทย์ก่อน ช่วงเวลาที่จะได้เจอแพทย์ คือ ตอนทำเลย แทบจะไม่ได้ปรึกษากับคุณหมอเลย บางคลินิกเรียกได้ว่าดูน่ากลัว แทบไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าคนที่มาทำหัตถการให้เราคือใคร โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ควรเป็นอย่างนั้น อย่างน้อยควรจะพบแพทย์เพื่อประเมินก่อนทำการรักษา เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพ แพทย์และคนไข้ควรเข้าใจตรงกัน ว่าต้องการแบบไหน และปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุด
4. เลือกคลินิกที่ให้เราเช็คฟิลเลอร์
แกะกล่องให้ดู และสามารถเอากลับได้ ต่อให้หลายคลินิกบอกว่าเค้าใช้ยาแท้แน่นอนแต่ถ้าเราอยากชัวร์ ว่ากล่องที่เราใช้คือของจริงแท้แน่นอน ไม่มีสอดไส้ปลอมปน ถ้าเราขอกล่องกลับบ้าน ทางคลินิกต้องยินดีให้เราค่ะ
5.เลือกคลินิกที่มีการติดตามผล
เลือกคลินิกที่ติดตามนัด Follow Up และสอบถามอาการค่ะ ควรจะมีการสอบถามอาการหลังฉีด ตั้งแต่วันแรก และนัดติดตามผล มาพบแพทย์ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้การรักษาปลอดภัย และทำให้คนไข้อุ่นใจ คลายความกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นหลังทำค่ะ
6. เลือกคลินิกที่สถานที่สะอาด
เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ เป็นสัดส่วนไม่แออัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลินิกที่อยู่ในห้าง นัดคิวอย่างเป็นระบบ ไม่ต้องให้ไปนั่งออในคลินิก เนื่องจากในยุคนี้ เป็นยุคโควิท คนไข้จะได้สะดวกในการรอคิวค่ะ
7.เลือกคลินิกที่มีระบบคัดกรองโควิดที่ดี ควรจะเลือกคลินิกที่มีระบบนัดที่ดี ไม่ต้องให้ไปนั่งแออัด มีความสะอาด มีมาตรฐาน เช่น การตรวจ atk ทั้ง คนไข้ แพทย์และเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับวัคซีนครบรวม booster แล้ว ใส่ชุดป้องกัน เป็นอย่างดี มีแบบสอบถาม แบบคัดกรอง ทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นอย่างดี
การเตรียมตัวก่อนทำโปรแกรมฟิลเลอร์ปาก
- เตรียมศึกษาหาข้อมูลค่ะ ทั้งคลินิก แพทย์และฟิลเลอร์ ถ้าอยากขอกล่องฟิลเลอร์กลับ ขอก่อนได้เลยค่ะ
- ศึกษา ดูรีวิวเคสปากที่ชอบ หรือแบบปากที่ชอบ เพื่อที่จะเอามาคุยกับแพทย์ค่ะ ว่าเหมาะกับเราหรือไม่ และจากรูปปากเดิมของเราควรจะไปแนวไหน จะได้แบบไหน ดูรีวิวทั้งจากผู้ใช้บริการจริง ดารา เซเลบ เน็ตไอดอล ทั้งภาพ และวิดีโอ
- ควรงดอาหารเสริมหรือยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เพราะจะทำให้เกิดอาการช้ำได้ง่ายค่ะ งดวิตามินอี แปะก๊วย โสม primrose oil, garlic และยากลุ่ม Warfarin ASA Anticoagulant Drugs
- งดเลเซอร์ รอบปากเช่นหนวด หรือการโกนหนวด ก่อนล่วงหน้า 1 วัน เพราะการทายาชาอาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ได้มากขึ้น
- แจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริม รวมทั้ง ประวัติแพ้ยาและประวัติการฉีดฟิลเลอร์หรือการผ่าตัดปาก ปากกระจับ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินเคสได้อย่างถูกต้อง
การดูแลตัวเองหลังฉีดปาก กี่วันทาลิปติกได้
- ทายาและทานยา ตามแพทย์สั่งค่ะ ปกติหมอจะให้ยาทาลดรอยเข็มลดอาการช้ำไปด้วย และยาทาฆ่าเขื้อ การทาแต่เนิ่นๆ จะทำให้อาการช้ำอักเสบหรือบวม หลังทำลดลงค่ะ
- ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะ Filler HA อุ้มน้ำทำให้ ฟิลเลอร์อิ่มฟูขึ้นค่ะ
- งดกินของร้อน ทาลิป และใช้หลอดดูดน้ำ 24 ชมค่ะ เพราะการโดนความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 24 ชมแรก อย่าเพิ่งโดนความร้อนหรือกินของร้อนค่ะ
- การทาลิป ในข่วงแรก 24 ชม อาจจะต้องระวังในเรื่องของการติดเชื้อ ทางที่ดีรอสัก 1 วันค่อยทาลิปค่ะ
- การใช้หลอดดูดน้ำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้ ให้งด ประมาณ 24 ชม รอ ฟิลเลอร์เซทตัวดีๆ ก่อนค่ะ
- งดการจับบ่อยๆ กดริมฝีปาก ในข่วง 48 ชม แรกค่ะ
ฉีดปากไปแล้วเจ็บไหม วิธีการทำให้เจ็บน้อยลง
ปกติบริเวณ ปากเป็นบริเวณที่มีปลายประสาทอยู่ค่อยข้างเยอะ เพราะฉะนั้นเราจะรู้สึกเจ็บกว่าการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่น แต่เรามีเทคนิคการฉีดที่ทำให้เจ็บน้อยลงกว่าเดิม นอกจากนี้ที่สำคัญคือฉีดปากหมอแนะนำให้ฉีดยาชาไปเลยค่ะ เพราะจากประสบการณ์ทั้งเป็นคนฉีดและคนถูกฉีด จะทำให้ชามาก แบบตอนฉีดเจ็บน้อยลงไปแบบมากๆ คือแทบไม่รู้สึก แต่จะชาปากเหมือนถอนฟันไปประมาณหลังจากนั้นอีกสองชม.ค่ะ ซึ่งหมอว่ามันดีกว่าการทายาชาเฉยๆ มากค่ะ
ผลข้างเคียงหลังทำฟิลเลอร์ปาก ปากช้ำกี่วัน
ผลข้างเคียงหลังทำฟิลเลอร์ปาก ที่มีแน่นอน คือ อาการบวม เกิดได้กับทุกคนเลยค่ะ มากน้อยต่างกัน ขึ้นกับ
- ชนิดของฟิลเลอร์ ต่างชนิดต่างแบรนด์ หรือแบรนด์เดียวกันยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่น ก็บวมต่างกันแบบมีนัยสำคัญค่ะ เช่น จูวีเดิร์ม ถ้าเป็นรุ่น Hyacross คือ อัลตร้าและอัลตร้าพลัส จะบวมมากกว่า รุ่น Vycross คือ Volift อย่างมีนัยสำคัญค่ะ
- เทคนิคการฉีด ถ้าฉีดแล้วมีความช้ำเยอะ ใส่เข็มเข้าออกหลายหลายจุด ก็จะมีโอกาสบวมได้มากขึ้นค่ะ
- ผิวเดิมของคนไข้ถ้าผิวเดิมของคนไข้มีอาการบวมง่ายช้ำง่ายโอกาสที่จะบวมกว่าคนอื่นก็จะมีสูงขึ้นค่ะ
ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
โปรแกรมฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน
กล่าวโดยสรุป บวมมากสุดประมาณหลังฉีด 12-72 ชม หลังฉีด ค่อยๆ หายและยุบบวม เรียบร้อย ประมาณ 5-7 วัน ความระบม จับแล้วเจ็บๆ ปาก จะหายไป ประมาณ 1-2 อาทิตย์ รอยช้ำหายประมาณ 1-2 อาทิตย์เช่นกัน และหลังจาก 1 อาทิตย์จะคิดถึงปากตอนที่เบิรน เพราะสวยสุดค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน แบบไหนต้องระวัง
ปกติหลัง ฟิลเลอร์ปาก เรายังสามารถรู้สึกถึงความมีฟิลเลอร์ที่ปากได้ค่ะ (เราจะรู้สึกได้ แต่คนอื่นไม่รู้นะคะ ว่าจับเป็นก้อนได้) กว่าจะเข้าที่ก็จะประมาณ 15 – 30 วันขึ้นไป แต่จะมีก้อนบางก้อนที่ ไม่เบลนกับเนื้อปากเราไปตามกาลเวลา และต้องจัดการอะไรบางอย่าง
1. เป็นก้อนใสที่ริมฝีปาก
เกิดจากการฉีดชั้นตื้น ที่ตื้นเกินไปหรือไม่ได้จัดทรงให้ดี ถ้าฟิลเลอร์เป็น Hyaluronic Acid ก็สามารถ เอาออกได้โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ หรืออาจจะใช้เข็มเจาะตื้นๆแล้วเอาออกได้ค่ะ
2. เป็นก้อนใสอยู่ในกระพุ้งแก้ม
อันนี้ก็อีกเช่นกัน คือลึกเกินไป จนถึงชั้นใน สามารถ เอาออกด้วยวิธีตามข้อ 1 เช่นกัน
3. เป็นก้อนไตแข็ง
อันนี้ก็ต้องปรึกษาแพทย์ เช่นกันเพราะการฉีดสารบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ใช้ Hyaluronic Acid หรือการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์หิ้ว สามารถทำให้เกิดก้อนไตแข็ง และทำให้ปากผิดรูปได้เช่นกันค่ะ
4. เป็นก้อนบวมปวดแดง
และมีอาการแดงร้อนมากขึ้นและเจ็บหลังฉีด อันนี้ต้องระวังเรื่องของการติดเชื้อหลังทำค่ะ ต้องรีบปรึกษาแพทย์
ปรึกษาคุณหมอฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย